top of page

ใบ : เป็นแบบกลุ่มประกอบด้วย ใบย่อย 3 ใบ ขอบใบ มีก้านใบยาว แต่ละต้นจะมีใบมากกว่า 10 ใบสลับกันแต่ละใบจะมีชีวิตอยู่นาน 1-3 เดือน ปกติจะมีใบใหม่ทดแทนอยู่ตลอดฤดูกาลผลิต


 

ระบบราก : เป็นพืชที่มีระบบรากตื้น เมื่อย้ายปลูกพืชจะสร้างรากที่แข็งแรง (peg root) ซึ่งจะมีอายุประมาณ 3-4 อาทิตย์ หลังจากนั้นรากที่เจริญขึ้นมาใหม่อาจเป็นแบบกึ่งถาวร มีอายุนานกว่าหนึ่งฤดูปลูก หรืออาจเป็นรากชั่วคราว (อายุ 1-7 วัน) ซึ่งจะเจริญในระดับความลึก 3-6 นิ้ว หรือ อาจเจริญลึก 12 ในดินที่ร่วนซุย เนื่องจากเหง้าจะเจริญสูงขึ้น ดังนั้นรากจะเจริญสูงขึ้นเหนือระดับดินตามอายุพืช


 

ตาดอก : เจริญจากตายอด ซึ่งเกิดจากเหง้าที่เจริญขึ้นมาใหม่ เมื่อได้อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ช่วงแสงสั้น (ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง/วัน) ชักนำให้เกิดการเจริญของดอก แต่ละต้นมีช่อดอก 4-7 ช่อและแต่ละช่อจะมีดอก 5-10 ดังนั้นเกษตรกร จึงควรปลูกช่วงเดือนตุลาคม และจะเริ่มเก็บผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี


 

ดอก : ดอกจะมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ แต่ในดอกขนาดใหญ่อาจจะมีมากกว่านี้ ในอุณหภูมิกลางวัน/กลางคืน สูงกว่า 22-21 องศาเซลเซียส ช่อดอกจะชะงักการเจริญเติบโต


 

ผล : เป็นแบบผลกลุ่ม (aggregate fruit) มีเมล็ดอยู่ด้านนอกหรือเปลือกของผล โดยขนาดของผลจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ การดูแลรักษา และ การให้น้ำ เนื่องจากน้ำจะช่วยขยายตัวของเซลล์จากการผสมเกสร ส่วนขนาดของผลที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเมล็ดในผล

วิธีปลูกสตอเบอรี่

bottom of page